Gianluca Vialli อดีตกองหน้าและผู้จัดการพบว่าเขาเป็นโรคมะเร็ง

Gianluca Vialli นักแตะผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง ผู้ซึ่งเป็นขวัญใจของใครหลายๆคน กองหน้าระดับตำนาน Chelsea ได้ออกสื่อเพื่อมาแถลงข่าว หลังจากเขาเก็บตัวเงียบเพื่อรักษาตัวต่อสู้โรคมะเร็งมาตลอดปีที่แล้ว และข่าวดี ออกมาจากปากของเขาว่า ยืนยันว่าสภาพร่างกายกลับมาแข็งแรงดั่งเดิมแล้ว

Gianluca Vialli ย้ายมายังถิ่น Stamford Bridge ในปี ค.ศ.1996 ในฐานะผู้เล่น ซึ่งสามารถบุกทะลวงตาข่ายได้ถึง 40 ประตู จากทั้งหมด 78 เกมรวมทุกรายการ รวมทั้งได้นั่งก้าวเข้ามาเป็นกุนซือของสโมสร ในปี ค.ศ.1998

อดีตดาวยิงวัยสุดเก๋า 54 ปี พา “The Blues” ไปคว้าแชมป์ FA Cup , League cup , European Cup , Winner cup ด้วยหน้าที่ผู้เล่นกับผู้จัดการทีม ก่อนย้ายไปคุมทีม Watford เพียงระยะสั้นๆ ก่อนจะหันมาทำงานด้านสื่อมวลชนเป็นหลัก

อดีตศูนย์หน้าสัญชาติอิตาลี ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ในช่วงเวลาอันยากลำบากของชีวิต โดยเขาต้องผ่านขั้นตอนทำเคมีบำบัด ยาวนาน 8 เดือน ตามด้วยฉายรังสีอย่างต่อเนื่องอีก 6 สัปดาห์ โดนการปรากฏตัวของเขาในครั้งนี้ มุ่งหวังสร้างแรงบันดาลใจให้แก่มนุษย์คนอื่นๆ ที่กำลังเป็นโรคมะเร็ง อดีตนักเตะ Sampdoria และ Juventus กล่าวต่อหน้าสื่อว่า ‘ตอนนี้ผมสบายดี วันเวลาได้ผ่านล่วงเลยไป 1 ปีแล้ว ตอนนี้ผมกลับมาฟิตอย่างสุดๆ ถึงแม้ผมจะไม่รู้อย่างแน่ชัดว่า มันจะจบอย่างไรก็ตาม ผมเข้าใจอย่างสุดซึ้งว่ามันเป็นเรื่องลำบากมากๆ ที่ต้องแจ้งข่าวร้ายนี้แก่สมาชิกในครอบครัว แน่นอนว่าคุณย่อมไม่อยากทำร้ายคนที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็น พ่อ – แม่ , พี่ – น้อง, คู่ชีวิต รวมทั้งลูกซึ่งเปรียบได้ดั่งแก้วตาดวงใจ… Olivia กับ Sofia มันอาจทำให้คุณรู้สึกละอาย เพราะเมื่อดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ ก็มาจากความผิดของคุณเอง ตอนผมพึ่งได้รับการรักษา ผมเคยสวมเสื้อกันหนาวไว้ใต้เสื้อเชิ้ตอีกชั้นเพื่อเพิ่มความอบอุ่น เพราะฉะนั้นจึงไม่มีใครสามารถสังเกตได้ ว่าร่างกายของผมแย่ลง ผมยังคงเป็น Gianluca Vialli ที่ใครๆต่างรู้จักกันดี หลังจากนั้นผมถึงได้ตัดสินใจเล่าเรื่องของผม และบันทึกลงหนังสือ สุดท้าย ผมหวังว่าเรื่องราวของผม จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ทุกคน ที่กำลังยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนของชีวิต และยังหวังอีกว่าตัวผม ก็เปรียบได้กับหนังสือเล่มหนึ่ง ที่จะวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงไม่ว่าใครๆ ก็อยากหยิบอ่านสัก 1-2 เรื่องก่อนนอน หรือช่วงเช้าที่ตื่นนอน ผมเชื่อว่าชีวิตของคน 10 % คือสิ่งกำหนดว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเรา ส่วนอีก 90 %ก็คือวิธีรับมือ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องราวของผมจะสามารถช่วยเหลือคนอื่นๆ ที่กำลังเผชิญหน้ากับโรคนี้ได้’

Post Author: admin